การฝากครรภ์ เป็นหนึ่งในกระบวนการสำคัญของการดูแลระหว่างการตั้งครรภ์ เพราะจะช่วยทำให้การตั้งครรภ์ดำเนินเป็นไปด้วยดี จนกระทั่งคุณแม่คลอดลูกอย่างปลอดภัย นอกจากทารกจะมีสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรง ยังช่วยลดความเสี่ยงจากภาวะแทรกซ้อนต่างๆ ขณะตั้งครรภ์อีกด้วย ขั้นตอนในการฝากครรภ์มีอะไรบ้าง มาเรียนรู้ไปพร้อมๆกัน
.
#เลือกสถานที่ใกล้บ้าน >> แนะนำว่าให้เลือกฝากครรภ์ในสถานพยาบาลใกล้บ้าน ใกล้ที่ทำงาน ยิ่งเป็นโรงพยาบาล ที่คุณแม่มีประวัติการรักษาอยู่แล้วยิ่งดี เพราะมีข้อมูลสำคัญที่ครบถ้วน เช่น โรคประจำตัว ยาที่เคยใช้ ฯลฯ ทั้งหมด แล้วต้องเป็นสถานพยาบาลที่สะดวก เข้าถึงได้ง่าย เพราะหากมีเรื่องฉุกเฉินจะได้เข้ารับการตรวจรักษาได้ทันท่วงที
.
#ข้อมูลที่ควรเตรียมไว้ >> แน่นอนว่าสำหรับการไปฝากครรภ์ครั้งแรก คุณหมอต้องซักประวัติอย่างละเอียด เช่น วันที่มีประจำเดือนครั้งสุดท้าย ประจำเดือนมาสม่ำเสมอหรือไม่ ก่อนตั้งครรภ์ได้คุมกำเนิดหรือไม่ เคยมีโรคหรืออาการผิดปกติอะไรบ้าง เคยแพ้ยาหรือไม่ หากคุณแม่กำลังใช้ยาอยู่ควรบอกคุณหมอด้วย ประวัติความเจ็บป่วยของคนในครอบครัวที่อาจมีผลต่อทารกในครรภ์ เช่น โรคเบาหวาน โรคโลหิตจางธาลัสซีเมีย โรคไวรัสตับอักเสบบี รวมทั้งประวัติการมีลูกแฝด หรือ ประวัติการคลอดก่อนกำหนด เป็นต้น
.
#การตรวจร่างกายเบื้องต้น >> นอกจากการชั่งน้ำหนัก วัดส่วนสูง วัดความดันโลหิตแล้ว คุณหมอจะตรวจครรภ์เพื่อดูว่าขนาด หรือ ระดับมดลูกนั้นสัมพันธ์กับอายุครรภ์หรือไม่ เสียงหัวใจของบุตรในครรภ์อยู่ที่ตำแหน่งใด ตรวจพบก้อนผิดปกติในช่องท้องหรือไม่ หากไม่พบสิ่งผิดปกติคุณหมอจะแนะนำวิธีปฏิบัติตัว หรือ ให้ยาบำรุงมารับประทาน
.
#สมุดฝากครรภ์ข้อมูลสำคัญของลูกน้อยและแม่ >> หลังจากเข้ารับการตรวจ คุณหมอหรือพยาบาลจะให้สมุดฝากครรภ์แก่คุณแม่ ซึ่งต้องนำมาด้วยทุกครั้งที่มาฝากครรภ์ หรือ เกิดกรณีฉุกเฉิน
.
#อยากรู้อะไรให้ถามคุณหมอ >> ภายหลังการตรวจ หากมีข้อสงสัยในเรื่องใด ให้ซักถามคุณหมอทันที เพราะกว่าจะพบกันอีกทีก็เกือบเดือน เชื่อว่าคุณแม่หลายคนคงมีหลากหลายคำถามที่กังวลใจอยู่ เช่น อายุครรภ์ ควรรับประทาน หรือ หลีกเลี่ยงอาหารประเภทใด กิจกรรมใดที่ทำได้และกิจกรรมใดที่ไม่ควรทำ สามารถมีเพศสัมพันธ์ได้หรือไม่ เป็นต้น